วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วุ้นเส้นแกงเผ็ดเต้าหู้ สูตรเจ

วุ้นเส้นแกงเผ็ดเต้าหู้ เป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่รับประทานอาหารเจ เพราะไม่มีส่วนประกอบจากเนื้อสัตว์เลย และเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงโดยเฉพาะโปรตีนจากเต้าหู้ ซึ่งเต้าหู้มีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำ ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมในเพศหญิงด้วย

วุ้นเส้นแกงเผ็ดเต้าหู้สูตรเจ
วุ้นเส้นแกงเผ็ดเต้าหู้สูตรเจ
 

วิธีต้มน้ำซุปใสให้มีรสชาติดี

การต้มน้ำซุป

การทำแกงจืดเพื่อให้รสดี และเพิ่มคุณค่าของอาหารมากขึ้น จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ จะต้องทำจากน้ำซุป ( น้ำ ต้มกระดูก ) ซึ่งทำจากกระดูกสดของเป็ด ไก่ หมู วัว และปลา ต้มกับเกลือและผักต่างๆ เช่น หัวผักกาด ต้นขึ้นฉ่าย ต้น หอม ผักชี หอมฝรั่ง กระหล่ำปลี หรือเศษผักที่เหลือจากประกอบอาหาร

วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ต้มแซ่บกระดูกอ่อนรสจัดจ้าน

ต้มแซ่บกระดูกอ่อน

ต้มแซ่บกระดูกอ่อน เป็นอาหารทางภาคอีสาน รสชาติจะเน้นไปทางเปรี้ยวและเผ็ด จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบอาหารรสจัด ต้มแซ่บสามารถเปลี่ยนจากกระดูกหมูอ่อนเป็นเนื้อ ไก่ หรืออาหารทะเลก็ได้


ต้มแซ่บกระดูกอ่อน
รูปต้มแซ่บกระดูกอ่อน จาก 108thaicooking.com

วิธีทำโจ๊กหมูไข่เค็มสำหรับมื้อเช้า

โจ๊กหมูไข่เค็ม

โจ๊กหมูไข่เค็ม เป็นอาหารอ่อน จึงเหมาะสำหรับเป็นอาหารเช้า อาหารสำหรับผู้ที่มีปัญหาระบบย่อยอาหาร หรือสำหรับผู้ป่วยทั่วไป โจ๊กหมูไข่เค็ม เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะขิงที่โรยลงไปมีคุณประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น

โจ๊กหมูไข่เค็ม
รูปโจ๊กหมูไข่เค็ม จาก www.trueplookpanya.com

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เมนูยำไข่ต้มอย่างไทย

ยำไข่ต้มอย่างไทย เป็นเมนูง่ายๆ สำหรับคนที่ชอบทานไข่ สามารถทานได้กับทั้งข้าวสวยและข้าวต้ม ลองนึกภาพข้าวต้มร้อนๆหนึ่งถ้วยกับยำไข่ต้มมีรสเปรี้ยวจากมะม่วงดิบ แค่นี้ก็น้ำลายสอแล้ว

เมนูยำไข่ต้มอย่างไทย


รูปยำไข่ต้มอย่างไทย
รูปยำไข่ต้มอย่างไทย จาก horapa.com

เมนูปลาสำลีอบใบเตย

เมนูแนะนำวันนี้คือ ปลาสำลีอบใบเตย ปลาสำลีเป็นปลาทะเลที่มีเนื้อแน่น รสชาติดีมาก มี DHA ค่อนข้างสูง ซึ่งจะช่วยบำรุงสมองและกำจัดความเครียดเหมาะสำหรับคนเมืองอย่างมาก

ปลาสำลีอบใบเตย


รูปปลาสำลีอบใบเตย
รูปปลาสำลีอบใบเตย จาก www.trueplookpanya.com


ส่วนผสม 

ปลาสำลี 1 ตัว 
เกลือป่น 1 ช้อนชา 
ใบเตย 10 - 15 ใบ 
วุ้นเส้น 200 กรัม 

วิธีทำ 

1. ทำความสะอาดปลา ควักไส้ออกแล้วล้างน้ำผึ่งไว้ ทาเกลือป่นให้ทั่วตัวปลา 2. 

2. นำใบเตยห่อตัวปลาสำลีทั้ง 2 ด้านให้มิด แล้วนำไปอบประมาณ 1/2 ชั่วโมง 3. 

3. นำวุ้นเส้นที่แช่น้ำแล้ว นำมาคลุกกับน้ำที่ได้จากการอบปลา นำเข้าอบจนวุ้นเส้นสุก 4. 

4. จัดปลาใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักสดและวุ้นเส้นอบ รับประทานคู่กับน้ำจิ้ม 

ส่วนผสมน้ำจิ้ม 

กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ 
พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด 
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา 

วิธีทำน้ำจิ้ม 

โขลกกระเทียม พริกขี้หนูสวนให้ละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ

ข้อควรระวัง ผู้ที่มีประวัติแพ้ปลาทะเลไม่ควรรับประทาน ควรระวังสำหรับผู้ที่เลือดแข็งตัวช้าหรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือแอสไพริน ผู้ที่อยู่ในช่วยเตรียมผ่าตัดหรือก่อนคลอดบุตร 1-2 เดือน

ขอบคุณรูปภาพจาก www.trueplookpanya.com

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ทำน้ำพริกมะเขือเทศทานเองง่ายๆ

น้ำพริกมะเขือเทศ เป็นน้ำพริกที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน เหมาะสำหรับทานกับผักสดทุกชนิด คุณผู้หญิงน่าจะชอบกัน เพราะมะเขือเทศช่วยบำรุงผิวลดริ้วรอย ผิวพรรณไม่แห้งกร้าน ระบบการหมุนเวียนเลือดดีขึ้น และยังสามารถต้านมะเร็งได้ด้วย


น้ำพริกมะเขือเทศ


น้ำพริกมะเขือเทศ
รูปน้ำพริกมะเขือเทศ จาก www.dumenu.com
เครื่องปรุง 

พริกขี้หนูแห้ง 9 เม็ด
เนื้อมะเขือเทศหั่นชิ้นเล็ก 3 ลูก
กระเทียม 9 กลีบ
หมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็ก 1/4 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
ผักสดเช่นแตงกวาถั่วฝักยาว มะเขือชนิดต่างๆ กะหล่ำปลีผักกาดขาว

วิธีทำ

1. โขลกพริกแห้งกับกระเทียมเข้าด้วยกันให้ละเอียด

2. เจียวหมูสามชั้นกับน้ำมันให้เหลืองหอม ใส่เครื่องที่โขลกลงผัดให้หอม ใส่มะเขือเทศ ผัดเคี่ยวจนเนื้อมะเขือเทศสุกนุ่ม น้ำขลุกขลิก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำปลา ผัดพอทั่ว 3. 

3. ตักใส่ถ้วย รับประทานกับผักสด

ขอบคุณรูปภาพจาก www.dumenu.com


วิธีทำน้ำพริกเห็ดอบสมุนไพร

เห็ดนางฟ้า เป็นเห็ดยอดนิมอีกประเภทหนึ่ง ราคาไม่แพง มีขายทุกที่ มีรสชาติอร่อย สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด นอกจากคุณค่าทางอาหารมากมายเหมือนเห็ดทั่วๆไปแล้ว เห็ดนางฟ้ายังมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดน้ำตาลในเลือด ปรับสภาพความดันโลหิต ลดการอักเสบ ยังยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย ช่วยป้องกันโรคหวัด ช่วยการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้นและช่วยป้องกันโรคกระเพาะอีกด้วย

วันนี้ผมจึงมีสูตรการทำน้ำพริกเห็ดอบสมุนไพรมาแนะนำ ซึ่งน้ำพริกแห้งนี้จะทำจากเห็ดนางฟ้า

น้ำพริกเห็ดอบสมุนไพร

น้ำพริกเห็ดอบสมุนไพร
รูปน้ำพริกเห็ดอบสมุนไพร จาก ครัวนำทาง
เครื่องปรุง 

  • พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 เม็ด 
  • เห็ดนางฟ้า 1 กิโลกรัม 
  • ตะไคร้ 20 ต้น 
  • ใบมะกรูด 15 ใบ 
  • เกลือป่นครึ่งช้อนชา
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด 2 ถ้วย 


วิธีทำ

1.นำเห็ดนางฟ้าสดๆ ตัดก้านแข็งๆออก ฉีดเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปผึ่งพอแห้งหมาดๆ 

2.นำลงทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน โขลกหรือบดพอแหลก 

3.คั่วพริกแห้งให้เม็ดพริกพอง ตักขึ้นพักให้เย็น พริกจะเหลืองกรอบ หลังจากนั้นนำไปโขลกให้ละเอียด

4.ตะไคร้ ใบมะกรูด ล้างซอย ผึ่งพอหมาด ๆ ทอดหรืออบจนกรอบ 

5.ผัดเครื่องที่โขลกทั้งหมด กับน้ำมันเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล น้ำมะขามเปียก ออกรสเค็ม หวาน เปรี้ยว คั่วให้มีลักษณะแห้ง น้ำพริกที่ได้จะเป็นเม็ดเล็ก ๆ เหมือนเม็ดถั่วเขียว

ขอบคุณรูปภาพจาก ครัวนำทาง

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

วิธีทำราดหน้าหมูหมักแสนอร่อย

ราดหน้าหมูหมัก

ราดหน้าหมูหมัก
รูปราดหน้าหมูหมัก จาก วิกิพีเดีย
ราดหน้า เป็นก๋วยเตี๋ยวชนิดหนึ่ง ที่ทำโดยการใช้เส้นลงไปผัดกับน้ำมันอ่อน ๆ ก่อน แล้วพักไว้ น้ำที่ใช้ราด เป็นน้ำต้มกระดูกผสมกับแป้งมันมีความข้นเหนียว เนื้อสัตว์นิยมใช้ เนื้อหมู และ กุ้ง หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ซึ่งถ้าเป็นเนื้อหมูจะนิยมหมักกับกระเทียมก่อน เพื่อให้เหนียวนุ่ม ผักนิยมใช้ ผักคะน้า หรือจะใช้ผักอย่างอื่น เช่น ผักกวางตุ้ง หรือ ผักกาดขาว ก็ได้

เส้นที่ใช้ทำราดหน้า มีหลายเส้น โดยมาก หากเป็นเส้นใหญ่ จะผัดกับน้ำมันและซีอิ๊วดำก่อน นอกจากนี้ยังมีหมี่ขาว หมี่เหลือง ซึ่งโดยมากจะเป็นเส้นทอดกรอบ นอกจากนี้แล้ว ราดหน้าบางครั้งยังสามารถใส่ไข่ลงไปได้ด้วย อาจจะผสมลงไปในน้ำราดหน้า หรือทอดแยกออกมาโปะหน้าต่างหากแบบไข่เจียวหรือไข่ดาว ก็ได้ 

 ส่วนผสม 


  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ 
  • ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 20  กรัม 
  • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา 
  • คะน้าต้นใหญ่ปอกโคนแข็งออกหั่นชิ้น ใบหั่นท่อน 4 ต้น 
  • เต้าเจี้ยวดำ 1 ช้อนชา 
  • น้ำหรือน้ำสต๊อกหมู 1 1/2 ถ้วย 
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 
  • ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 
  • แป้งมันฮ่องกงหรือแป้งมัน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ 
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา 
  • เครื่องปรุงมี น้ำส้มพริกดอง พริกป่น น้ำปลา และน้ำตาลทราย ฯลฯ 


 หมูหมัก 


  • เนื้อหมูส่วนสะโพกหั่นชิ้นพอคำ 150 กรัม 
  • แป้งมัน 2 ช้อนชา 
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ 
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา 


 วิธีทำ 


 1. ทำหมูหมักโดยเคล้าเนื้อหมู แป้งมัน น้ำมันหอย ซอสปรุงรส และน้ำตาลเข้าด้วยกันในชาม หมักนาน 30 นาที 2.

 2.ตั้งกระทะไฟแรงจนร้อนจัดใส่น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ กลอกให้ทั่วกระทะ

 3.ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงผัดให้เส้นไหม้เกรียมและพองกรอบ ใส่ซีอิ๊วดำ ผัดให้ทั่ว ปิดไฟ ตักใส่จาน พักไว้ 

 4.ตั้งกระทะน้ำมันที่เหลือบนไฟกลางจนร้อน ใส่เนื้อหมูหมัก ผัดพอสุก ใส่คะน้า ผัดให้ทั่ว

 5.ใส่เต้าเจี้ยวดำ เติมน้ำหรือน้ำสต๊อกหมู ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาล

 6.พอเดือดละลายแป้งมันกับน้ำ 3 ช้อนโต๊ะเทลงกระทะ คนพอแป้งสุกข้น ปิดไฟ 4. ตักเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ผัดใส่จาน ราดด้วยน้ำราดหน้า โรยพริกไทยป่น

 7.เสิร์ฟร้อนๆกับเครื่องปรุงรส

ขอบคุณข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org

วิธีทำเต้าหู้ย่างซีอิ๊ว

เต้าหู้ย่างซีอิ๊ว

เต้าหู้ย่างซีอิ๊ว
รูปเต้าหู้ย่างซีอิ๊ว จาก  http://www.dumenu.com/recipe/220

เต้าหู้ เป็นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองซึ่งให้คุณค่าทางโภชนาการสูงโดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งให้โปรตีนมากกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดถึง สองเท่าในปริมาณที่เท่ากันและมีราคาถูกอีกด้วย เต้าหู้ยังเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ไม่มีคอลแลตโตลอน โดยวัตถุดิบ ถั่วเหลืองยังมีสาร เลซิติน ซึ่งมีผลในการลดไขมันและช่วยสงเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำ และฮอร์โมนจากพืช ไฟโตเอสโทรเจน ที่มีการวิจัยพบว่ามีผลในการป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อผู้หญิงวัยทองคือช่วยชะลอภาวะหมดประจำเดือนและลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม

 ส่วนผสม 


  • เต้าหู้อ่อนกึ่งแข็งหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 400 กรัม 
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ 
  • ซอสหอยนางรมเจผสมเห็ดหอม 4 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำมันงา 4 ช้อนชา 
  • น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา 
  • ขิงสับละเอียด 1 ช้อนชา 
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา 
  • งาขาว 1 ช้อนชา 
  • งาดำ 1 ช้อนชา 
  • ขิงดอง
  • ผักสด เช่น แครอทขูดฝอย ผักสลัด 



 วิธีทำ


1. ผสมซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรมผสมเห็ดหอม น้ำมันงา น้ำตาลทราย ขิงสับละเอียด พริกไทยป่น คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน 2.

2.ใส่เต้าหู้ลงในน้ำซอสปรุงรสข้อ 1 โรยงาขาวและงาดำคลุกเคล้าให้เข้ากันหมักไว้ 20 นาที 3.

3.ย่างเต้าหู้ให้สุกและมีกลิ่นหม ทาด้วยน้ำซอสปรุงรสซ้ำหลายๆครั้ง

4.ขณะย่างเต้าหู้ 4. เคี่ยวน้ำซอสปรุงรสที่เหลือจากการหมักเต้าหู้ให้พอเดือด ยกลง 5.

5.จัดเต้าหู้ย่างซีอิ๊วใส่จาน ตกแต่งด้วยผักสลัด แครอทและขิงดอง ราดด้วยน้ำซอสปรุงรสที่เหลือบนเต้าหู้ย่าง จัดเสิร์ฟขณะร้อน 

หมายเหตุ - การเลือกเต้าหู้สำหรับนำมาย่างไม่ควรเลือกชนิดอ่อนหรือแข็งเกินไปเพราะจะทำให้ไม่ได้เนื้อสัมผัสของเต้าหู้และซอสปรุงรสไม่ซึมเข้าไปในเนื้อเต้าหู้ - การย่างสามารถย่างบนกระทะเทฟลอนแบบร่องหรือตะแกรงย่างได้ทั้ง 2 แบบ


วิธีเลือกซื้อเต้าหู้ 


  • ทดสอบว่าเต้าหู้ยี่ห้อนั้นใส่สารกันบูดหรือไม่ โดยการนำมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องหนึ่งวันถ้าเสียแสดงว่าไม่ใส่สารกันบูด 
  • ต้องไม่มีเหงื่อหรือน้ำขุ่นขาวซึมออกมาจากเต้าหู้ 
  • เมื่อดมดูแล้วต้องไม่มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นเปรี้ยว 
  • สีใกล้เคียงกันทั้งก้อนไม่คล้ำและไม่มีจุดด่างดำ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

ไก่ทอดซอสโยเกิร์ต - สูตรอาหาร

ไก่ทอดซอสโยเกิร์ต


ไก่ทอดซอสโยเกิร์ต
รูปไก่ทอดซอสโยเกิร์ต จาก http://www.trueplookpanya.com

 เครื่องปรุง 


  • เนื้ออกไก่หรือสันในไก่ 500 กรัม 
  • ลูกกระวานเทศ 2 เม็ด 
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย 
  • ขิงขูดละเอียด 1 ช้อนชา 
  • น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ 
  • หอมใหญ่สับ 1 หัว 
  • เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา 
  • พริกไทยดำป่น 1/4 ช้อนชา 
  • เมล็ดอัลมอนด์ หั่นแท่งยาวอบ 1/4 ถ้วย 

 วิธีทำ 1. 


1.ล้างเนื้อไก่ หั่นเป็นชิ้นพอคำ ใส่ลงในอ่างผสม พักไว้ 

2.ทุบลูกกระวานให้แตกเอาเมล็ดด้านในคั่วกระทะด้วยไฟอ่อนพอหอม ปิดไฟ นำไปโขลกพอแตกและมีกลิ่นหอม ใส่ถ้วยเตรียมไว้ 

3. ผสมโยเกิร์ต เมล็ดลูกกระวานเทศที่คั่ว และขิง เข้าด้วยกันในอ่างผสม พักไว้ 

4. ผัดหอมใหญ่ในกระทะน้ำมันด้วยไฟอ่อนจนสุกนุ่ม ใส่เนื้อไก่ลงผัดจนเหลืองและมีสีน้ำตาลเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ผัดพอทั่ว เติมน้ำ เคี่ยวนานประมาณ 20-25 นาที หรือเนื้อไก่สุกนุ่มและน้ำงวดลง ปิดไฟ

5.ใส่โยเกิร์ตที่ทำลงในหม้อไก่ คนให้เข้ากัน ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยพาร์เลย์หรือผักกาดคอส โรยอัลมอนด์ เสิร์ฟ

Tips: เพื่อให้ได้เนื้อไก่ที่สด ควรเลือกที่เนื้อแน่น สีเนื้ออมชมพู กดดูแล้วเนื้อไม่ยุบ เมื่อทอดแล้วเนื้อไก่จะไม่ด้านแข็ง