วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิธีทำข้าวซอยไก่ อาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือที่แสนอร่อย

ข้าวซอยไก่ เป็นอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือ มีเส้นคล้ายเส้นบะหมี่ น้ำซุปมีรสจัดจ้านของเครื่องแกง ข้าวซอยไก่ยังสามารถรับประทานกับเครื่องเคียงได้หลายอย่าง เช่น ผักกาดดอง หอมหัวแดง และผักต่างๆ ใส่ได้ทั้งเนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว หรือของทะเล

ส่วนผสมของข้าวซอยไก่

- น้ำมันพืช

- พริกแกง

- น่องไก่ 3-4 น่อง

- หัวกะทิ 1 ถ้วย หางกะทิ 3 ถ้วย

- ผงแกงกระหรี่ 2 ช้อนชา

- ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ

- น้ำตาล 1 ช้อนชา

- เกลือ 1 ช้อนชา

- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

- เส้นบะหมี่ 4-5 ก้อน

- หอมแดง ผักชี ต้นหอม

วิธีทำข้าวซอยไก่

1. ตั้งกะทะด้วยไฟปานกลาง ใส่หัวกะทิ 1/2 ถ้วย ตามด้วยพริงแกงและผงแกงกระหรี่ คนให้เข้ากันและมีกลิ่นหอม แล้วยกลง

2. ตั้งหม้อแล้วใส่หางกะทิลงไป ตามด้วยเกลืออีกนิดหน่อย รอจนร้อนแล้วจึงใส่น่องไก่ลงไป รอจนกะทิเดือดแล้วค่อยลดไฟลง เคี่ยวต่อไปจนไก่สุก

3. นำน้ำพริกแกงที่ได้จากขั้นตอนแรก มาใส่ลงในหม้อที่เคี่ยวไก่ไว้ แล้วคนให้เข้ากัน

4. ปรุงรสซอสถั่วเหลือง น้ำตาล น้ำมะนาว แล้วใส่กะทิที่เหลือลงไป คนจนน้ำแกงเดือด แล้วยกลง

5. ตั้งกะทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ก็ใส่เส้นบะหมี่ลงไป 1 ก้อน ทอดให้กรอบเหลือง แล้วตักมาทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน

6. นำเส้นบะหมี่มาลวกน้ำร้อนสักครู่ ให้เส้นสุกพอดี แล้วตักออก

7. วิธีเสริฟ นำบะหมี่ที่ลวกไว้ใส่ชาม แล้วตักน้ำแกงพร้อมน่องไก่ใส่ลงไป โรยด้วยบะหมี่ทอดที่เตรียมไว้ ตกแต่งด้วย หอมแดง ผักชี ต้นหอม แค่นี้เราก็จะได้ข้าวซอยไก่ที่แสนอร่อย



วิธีทำต้มข่าไก่อย่างง่าย

ต้มข่าไก่ เป็นอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ วิธีทำก็ง่าย รสชาติที่แสนอร่อย มีกลิ่นหอมของกะทิ สามารถใส่พืชสมุนไพรได้หลายอย่าง ทั้งขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และมีรสชาติที่หลากหลาย ทั้งมัน หวาน เผ็ด

ส่วนผสมต้มข่าไก่

- กะทิ
- น้ำซุปไก่ 2 ถ้วย
- พริกสดหั่น
- ข่าหั่นบางๆ 1 หัว
- ขิงสดสับ 1 หัว
- อกไก่หั่นบางๆ
- เห็ดฟางดอกตูม ฝ่าครึ่ง
- มะเขือเทศขนาดกลาง
- ก้านตะไคร้สับ
- ใบมะกรูดหั่นฝอย
- ผักชี 1 ถ้วย
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำต้มข่าไก่

1.ตั้งหม้อโดยใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำซุปไก่และกะทิครึ่งเดียวจากที่เตรียมไว้ คนแล้วรอให้เดือด

2.ใส่ขิง ข่า และตะไคร้ลงไป เคี่ยวอีกสักพัก

3.ใส่อกไก่ลงไป แล้วคนจนไก่สุก แล้วใส่กะทิที่เหลือลงไป

4.นำเห็ดฟาง มะเขือเทศ พริกสด และใบมะกรูด ใส่ลงไป เคี่ยวจนน้ำแกงเดือด

5.แล้วจึงปรุงรสตามความต้องการ ด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากัน แล้วโรยด้วยผักชี

*แค่นี้เราก็จะได้ต้มข่าไก่ที่แสนอร่อยพร้อมเสริฟสำหรับทุกคนในบ้าน

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

9 สุดยอดอาหารที่เพิ่มความสามารถของสมอง

อาหาร 9 อย่างนี้คุณควรทานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยบำรุงสุขภาพของสมอง เพิ่มความสามารถของสมอง และป้องกันโรคที่เกี่ยวกับสมอง เพราะอาหารทั้ง 9 ชนิดนี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับสมองทั้งนั้น

1. ขมิ้น

ขมิ้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดี และป้องกันความผิดปกติทางระบบประสาท

ขมิ้นยังช่วยยับยั้งการสะสมของแอมีลอยด์ เบต้า ซึ่งพบในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ช่วยเพิ่มหน่วยความจำและกระตุ้นการผลิตเซลล์สมองใหม่

2. คื่นฉ่าย

คื่นฉ่ายเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วย ลูทอีโอลีน สารประกอบจากพืชที่ช่วยลดการอักเสบของสมองของคุณซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสื่อมของสมอง ลูทอีโอลีนยังช่วยลดอัตราของการสูญเสียความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับอายุด้วย

นอกจากนี้ยังมีผักชีฝรั่ง พริก และแครอทยังเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยลูทอีโอลีน

3. บร็อคโคลีและกะหล่ำดอก

บร็อกโคลีและกะหล่ำดอกเป็นแหล่งที่อุดมของโคลีน วิตามินบี ที่สำคัญในการพัฒนาสมอง ปริมาณโคลีนในระหว่างตั้งครรภ์อาจช่วยเพิ่มการทำงานทางปัญญาในการปรับปรุงการเรียนรู้และความจำ

ช่วยยับยั้งการลดลงหน่วยความจำที่เกี่ยวข้องกับอายุและความเสี่ยงสมองของคุณกับสารพิษในช่วงวัยเด็ก

ในไข่และเนื้อสัตว์ก็เป็นอีกแหล่งที่จะพบโคลีนได้มากด้วยเช่นกัน

4. วอลนัท

วอลนัทเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วย โอเมก้า3 ไขมัน ไฟโตสเตอรอล และสารต้านอนุมูลอิสระ มีดีเอชเอซึ่งเป็นชนิดไขมันของโอเมก้า 3 ที่ช่วยเพิ่มการทำงานของสมองและยังส่งเสริมการรักษาสุขภาพของสมองให้อยู่ในสภาพดี

5. ปู

ในอาหารประเภทปูเมื่อทานไปแล้วจะมีสารจำพวกฟีนิลอะลานีน ฟีนิลอะลานีนเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญในการผลิตฮอร์โมนหลายชนิด เช่น เอพิเนฟริน (epinephirne), นอร์เอพิเนฟริน (norepinephrine) และไทรอยด์ฮอร์โมน เป็นต้น ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้เป็นฮอร์โมนที่ส่งผลต่ออารมณ์ ลดปัญหาเรื่องความจำ และยังช่วยต่อสู้กับโรคพาร์กินสัน ปูยังเป็นแหล่งผลิตวิตามินบี 12 ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างสมองอีกด้วย

6. ถั่วหัวช้างหรือถั่วลูกไก่

ถั่วลูกไก่เป็นหนึ่งในแหล่งอาหารที่ผลิตธาตุแมกนีเซียมจำนวนมาก (นอกเหนือจากสาหร่ายทะเลและผักใบสีเขียว) ประโยชน์ของแมกนีเซียมคือช่วยบำรุงเซลล์สมองให้เพิ่มความเร็วในการส่งข้อความภายในสมอง และยังช่วยผ่อนคลายหลอดเลือดซึ่งจะทำให้การไหลเวียนของเลือดไปยังสมองทำได้ดีขึ้น

7. เนื้อแดง

เนื้อแดงเช่นเนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้ามีวิตามินบี 12 จำนวนมาก ซึ่งมีความสำคัญสำหรับการทำงานของสมอง ช่วยทำให้ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความจำ สมาธิ และการทรงตัว

8. บลูเบอร์รี่

สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ในบลูเบอร์รี่สามารถป้องกันและรักษาโรคทางระบบประสาทได้ สามารถช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์ ป้องการการเสื่อมสภาพและบำรุงระบบสมองส่วนกลาง รักษาเซลล์สมองที่ถูกทำลาย และช่วยรักษาความจำในระยะยาว

9. ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ

ไขมันที่มีประโยชน์ต่อการส่งเสริมสุขภาพของร่างกายและสมองของคุณ ประกอบไปด้วย เนยที่ผลิตจากน้ำนมดิบ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ น้ำมันมะพร้าว ถั่วพีแคน มะคาเดเมีย ปลาแซลมอนป่าอลาสก้าและอะโวคาโด เป็นต้น ไขมันเหล่านี้จะผลิตโอเมก้า3 โอเมก้า6 DHA และ AA ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นอย่างมากต่อการเสริมสร้างเซลล์สมองและระบบประสาท และยังช่วยพัฒนาสมองอีกด้วย

อาหาร 8 ชนิดที่คุณควรจะทานเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก

อาหารที่ผมคัดมาทั้ง 8 ชนิดนี้เป็นอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน เพราะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก สังกะสี และธาตุอื่นๆที่จำเป็นต่อกระดูก

1. อัลมอนด์ (Almonds) - เมล็ดอัลมอนต์อุดมไปด้วยวิตามินอี วิตามิน แมงกานีสและแมกนีเซียม ยังเป็นแหล่งให้วิตามินบี แคลเซียม เหล็กและสังกะสีจำนวนมาก

2. ผักกวางตุ้ง (Bok choy) - ผักชนิดนี้เป็นแหล่งที่ดีของแร่ธาตุ โดยเฉพาะแคลเซียม ฟอสฟอรัส  โพแทสเซียม แมงกานีส เหล็ก และแมกนีเซียม โพแทสเซียมเป็นแร่ที่สำคัญในของเหลวในเซลล์และร่างกาย ที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต แมงกานีสจะถูกใช้โดยร่างกายเป็นปัจจัยร่วมสำหรับเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ เหล็กเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเซลล์เม็ดเลือดแดง

3. บร็อคโคลี่ (Broccoli) - เป็นผักที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่มีความดันโลหิตสูงและการคุกคามของโรคกระดูกพรุน เพราะผักชนิดนี้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม โพแทสเซียมช่วยรักษาระบบประสาทมีสุขภาพดีและการทำงานของสมองที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับการช่วยเหลือการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ ผักชนิดนี้มีความสำคัญมากสำหรับสุขภาพกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน

4. เมล็ดปอ เมล็ดป่าน (Flax seeds) - เมล็ดปอ เมล็ดป่านมีโอเมก้า 3s สามารถช่วยลดการอักเสบที่นำไปสู่โรคต่าง เช่นโรคหอบหืด โรคไขข้ออักเสบ ปวดหัวไมเกรนและโรคกระดูกพรุน alpha-linolenic acid (ALA) เป็นหนึ่งในชนิดของโอเมก้า 3s ที่พบในเมล็ดปอ เมล็ดป่านและไขมันนี้จะช่วยส่งเสริมสุขภาพของกระดูก

5. ผักคะน้า (Kale) - หากคุณสามารถกินอาหารที่อุดมด้วยวิตามินสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ คุณสามารถลดความเสี่ยงโดยรวมของการพัฒนาหรือตายจากโรคมะเร็ง คะน้าอุดมไปด้วยวิตามินเค วิตามินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของร่างกาย รวมทั้งการแข็งตัวของเลือด ต้านอนุมูลอิสระและเสริมสุขภาพกระดูก เสริมสร้างความเข้มแข็งองค์ประกอบของกระดูกของเรา วิตามินเคยังป้องกันไม่ให้แคลเซียมสร้างขึ้นในเนื้อเยื่อของเรา

6. เมล็ดมัสตาร์ด (Mustard seeds) - เมล็ดมัสตาร์ดเหล่านี้เป็นแหล่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แคลเซียม แมงกานีส ทองแดง เหล็ก ซีลีเนียมและสังกะสี แคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน

7. งา (Sesame seeds) - งาเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งแคลเซียม เหล็ก แมงกานีส สังกะสีแมกนีเซียม เซเลเนียมและทองแดงซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระดูก  การผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง การสังเคราะห์เอนไซม์ ผลิตฮอร์โมน เพิ่มความแขงแกร่งให้กล้ามเนื้อหัวใจและโครงกระดูก ทองแดงทำให้ลดอาการบวมและปวดที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ  แมกนีเซียมบรรเทาความทุกข์ทรมานจากโรคหอบหืด ลดอาการไมเกรนและลดความดันโลหิต แคลเซียมสามารถช่วยลดการสูญเสียกระดูก

8. ผักโขม (Spinach) - ผักโขมนี้เป็นแหล่งรวมของวิตามินเค แมกนีเซียม โฟเลต แมงกานีส เหล็ก, แคลเซียม วิตามินซี วิตามินบี 2 โพแทสเซียมและวิตามินบี 6 ในขณะที่โปรตีนฟอสฟอรัส วิตามิน E สังกะสี ทองแดง ซีลีเนียม ไนอาซิน โอเมก้า 3 กรดไขมันและใยอาหารทั้งหมดที่จะพบในผักนี้




วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิธีทำแกงเขียวหวานไก่

แกงเขียวหวานไก่ เป็นอาหารไทยที่มีมาช้านาน มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ทั้งรสหวาน รสมัน และรสเผ็ด สามารถใส่ผักต่างๆได้หลากหลาย เช่น ถั่วฝักยาว มะเขือต่างๆ เป็นต้น การทำน้ำพริกแกงให้มีกลิ่นหอมเฉพาะของคุณเองจะมีส่วนผสมพิเศษและต้องใช้เวลาบ้าง แต่คุณจะได้ลิ้มรสที่แตกต่างจากที่อื่น

แกงเขียวหวานที่ปรุงตามส่วนผสมนี้จะทานได้ประมาณ 4 ท่าน

ส่วนผสมน้ำพริกแกงเขียวหวาน

- ก้านตะไคร้หั่นบาง ๆ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 1 ช้อนชา
- เม็ดผักชี 1 ช้อนชา
- เม็ดยี่หร่า 1/2 ช้อนชา
- พริกขี้หนูหั่น 6 เม็ด
- กระเทียมปอกเปลือก 4 กลีบ
- หอมแดง 5 หัว
- ข่า 1 หัวเล็กๆ
- ผิวมะกรูดหั่น 1 ช้อนชา
- ก้านผักชีสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักชี
- กะปิ 1 ช้อนชา
- น้ำมันดอกทานตะวัน

ส่วนผสมของแกงเขียวหวาน

- กะทิ 800 กรัม
- อกไก่ไม่มีกระดูกหั่นเป็นชิ้นบางๆ 1/2 โล
- น้ำสต๊อกไก่
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
- ใบมะกรูด
- ถั่วฝักยาว
- มะเขือพวง
- ใบโหระพา

เครื่องปรุง

- ผักชี
- พริกแดงหั่นบางๆ
- ต้นหอมหั่นฝอยๆ
- มะนาว

วิธีทำแกงเขียวหวานไก่

1.การทำน้ำพริกแกงเขียวหวาน ให้นำตะไคร้กับน้ำมะนาวใส่ในชามแล้วแช่ทิ้งไว้ 30 นาที

2.ตั้งกะทะใช้ความร้อนปานกลาง ใส่เม็ดพริกไทย เม็ดผักชี และเม็ดยี่หร่า ลงในกะทะ คั่วจนมีกลิ่นหอมแล้วนำออกมาใส่จานทิ้งไว้ให้เย็น

3.ใส่ตะไคร้ เครื่องเทศ และส่วนผสมน้ำพริกแกงที่เหลือลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่กะปิลงไปแล้วปั่นต่ออีกสักพัก ก็จะได้น้ำพริกแกงเขียวหวาน ซึ่งสามารถแช่ตู้เย็นเก็บไว้ในนานเป็นอาทิตย์

4.ตั้งกะทะใช้ไฟอ่อนๆ ใส่กะทิลงไปครึ่งเดียวจากที่เตรียมไว้แล้วค่อยๆกวนจนน้ำกะทิแตกตัว ใส่น้ำพริกแกงเขียวหวานลงไปแล้วคนให้เข้ากัน นำเนื้อไก่ใส่ลงไปแล้วค่อยๆคนจนรู้สึกว่าน้ำพริกแกงเข้าไปในเนื้อไก่

5.แล้วใส่กะทิที่เหลือพร้อมกับน้ำสต๊อกไก่ แล้วค่อยใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไป ต่อมาก็เริ่มปรุงรสตามความต้องการของเรา ตั้งแกงไว้โดยใช้ความร้อนปานกลางจนไก่สุก แล้วชิมรสชาติถ้าไม่พอใจก็ปรุงเพิ่ม

6.ตักใส่ชาม แล้วตกแต่งให้สวยงาม โดยใส่ผักชี พริกแดง ต้นหอมและมะนาวชิ้นลงไป